คนไทยส่วนใหญ่เชื่อว่าต้องเคยมีประสบการณ์เสี่ยงโชคซื้อเลขเด็ดไม่ว่าจะเป็นหวย หรือสลากกินแบ่งรัฐาลกันอย่างแน่นอน แต่ละคนก็จะมีวิธีการเสาะแสวงหาเลขเด็ดแตกต่างกันไป บางคนเชื่อเรื่องโชคชะตา การบนบานศาลกล่าว บ้างก็นิยมออกเดินทางตามหา เลขเด็ด เองจากแหล่งขอเลขเด็ดยอดฮิตทั่วประเทศ ศาลต่างๆ รวมไปถึงพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ก็ล้วนแล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคล วันนี้ขอพามากราบไหว้ “ศาลเจ้าพ่อยี่กอฮง” เทพเจ้าเสี่ยงโชค เล่นหวย องค์แรกแห่งสยามประเทศ” ซึ่่งติดอับดับต้นๆ นิยมมาขอหวยหรือเลขเด็ด เป็นสถานที่สำคัญของบรรดาคอหวย
ศาลเจ้าพ่อยี่กอฮงตั้งอยู่ที่ไหน
“ศาลเจ้าพ่อยี่กอฮง” หรือ “ศาลพ่อปู่เจ้ายี่กอฮง” ศาลเจ้ายี่กอฮงตั้งอยู่เลขที่ 447 ตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ของ สน.พลับพลาไชย 1-2 ถ.พลับพลาไชย ตั้งอยู่เยื้อง กับศาลเจ้าไต่ฮงกง เปิดช่วงเช้า-ช่วงเย็น เวลาเปิดปิดไม่แน่นอน ศาลเจ้าพ่อยี่กอฮงตั้งอยู่บนดาดฟ้าของสถานีตำรวจพลับพลาไชย แถวโซนเยาวราชนั่นเอง โดยแต่เดิมท่านมีชื่อว่า “นายเตี่ยง แซ่แต้” ซึ่งเป็นต้นตระกูลเตชะวณิชย์ เมื่อตอนมีชีวิตอยู่ท่านเป็นเจ้าของโรง หวย และยังมีส่วนสำคัญในการริเริ่มให้มีการเล่นหวยขึ้นในประเทศอีกด้วย นอกจากนี้ยังได้ทำคุณประโยชน์อีกมากมาย เช่น บริจาคทรัพย์สินในการสร้างถนน โรงเรียน หรือสถานที่สำคัญต่าง ๆ หลายที่ และยังเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งขึ้นด้วย

“ศาลเจ้าพ่อยี่กอฮง” เทพเจ้าเสี่ยงโชค เล่นหวย องค์แรกแห่งสยามประเทศ
ประวัติความเป็นมาของยี่กอฮง
ยี่กอฮง เกิดในประเทศจีน เป็นชาวจีนแต้จิ๋วที่ถือกำเนิดในมณฑลกวางตุ้ง ใน พ.ศ. 2392 บิดาชื่อนายแต้ซีแซ กับนางเซียะ เมื่ออายุ 16 ปี ได้เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยได้เข้าทำงานเป็นเสมียนโรงบ่อนของพระยาภักดีภัทรากร (เล่ากี้ปิง) และตั้งปณิธานว่าจะประกอบอาชีพค้าขายในสยามตลอดชีวิต โดยตั้งหลักฐานอยู่ในพระนคร เปิดร้านค้าขายผ้าอยู่ที่หัวมุมสี่กั๊กพระยาศรี ด้านถนนบำรุงเมือง เมื่อค้าขายได้ระดับหนี่งจึงได้ตัดสินใจอยู่ในประเทศไทยถาวรตลอดชีวิต ได้ขยายกิจการค้าไปหลายจังหวัด เช่น กำแพงเพชร ตาก และเชียงใหม่ในช่วงรัชสมัยรัชกาลที่ ๖ ท่านประกอบอาชีพค้าขายจนสร้างโรงสีข้าว ประกอบธุรกิจส่งออก จนมีฐานะมั่นคง ตามประวัติเล่าไว้ว่า ท่านยี่กอฮง ได้มาปลูกบ้านอยู่ที่ย่านพลับพลาไชย หน้าวัดคณิกาผล ท่านยี่กอฮง ได้ประกอบกิจการค้าหลายอย่าง แต่ที่ได้สร้างฐานะให้ท่านจนรุ่งเรืองก็คือ การเป็นเจ้าภาษีโรงต้มกลั่นสุรา โรงบ่อนเบี้ย โรงหวยกอขอ ต่อมาเมื่อมีการออกพระราชบัญญัติเลิกอากรบ่อนเบี้ย และหวยกอขอ ท่านจึงได้หันไปประกอบกิจการค้าอื่น ๆ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ท่านจึงมีความคิดที่จะช่วยเหลือประเทศชาติ ยี่กอฮงท่านได้มีส่วนในการบริจาคทรัพย์สินและได้สร้างสาธารณประโยชน์ไว้อย่างมากมาย เช่น ถนน, สะพานฮงอุทิศ สะพานนิยมนฤนาถ สะพานอนุวัตน์วโรดม, โรงเรียนวัดสะพานสูง (โรงเรียนโยธินบูรณะ), โรงเรียนป้วยเองหรือโรงเรียนเผยอิง เมื่อ พ.ศ. 2463, ศาลเจ้าเก่าถนนทรงวาด, ศาลเจ้าไต้ฮงกง, ก่อสร้างท่าน้ำฮั่วเซี้ยม, ริเริ่มก่อตั้งโรงพยาบาลเทียนฟ้า เป็นต้น ท่านเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งมูลนิธิป่อเต็กตึงขึ้น โดยชักชวนเหล่าพรรคพวกเพื่อนฝูงในสมัยนั้น มาร่วมกันสร้างมูลนิธิช่วยเหลือผู้ยากไร้ตกทุกข์ได้ยากและสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่เด็กที่เรียนดีแต่ยากไร้ อีกทั้งยังเป็นผู้มีส่วนในการรณรงค์หาเงินเข้าสภากาชาดไทยอย่างมากมาย รวมถึงได้บริจาคเงิน 10,000 บาทในการก่อสร้างโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยได้เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์หมายเลข 9 พร้อมทั้งยังเป็นผู้ชักชวนเพื่อนฝูงคหบดีรวบรวมกันบริจาคเงินซื้อ “เรือรบหลวง พระร่วง”ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เพื่อเข้าประจำการในกิจการป้องกันประเทศชาติของกองทัพเรือโดยท่านนำร่องบริจาคทรัพย์เป็นเงิน 10,000.00 บาท รวมถึงการส่งเงินไปช่วยสร้างเขื่อนที่ประเทศจีน ทำให้ชาวจีนรอดชีวิตจากน้ำท่วมทุกปีเป็นจำนวนมาก
บั้นปลายชีวิต เมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2479 รองหัวหมื่นพระอนุวัตน์ราชนิยมได้เสียชีวิตลงอย่างสงบในบ้านของท่าน สิริอายุรวม 87 ปี เนื่องจากท่านได้ทำคุณประโยชน์แก่ชาวจีนเป็นจำนวนมาก ศพของท่านจึงถูกขอนำกลับไปฝังที่สุสานในเมืองปังโค่ย ประเทศจีน หลังจากท่านเสียชีวิตแล้ว เมื่อวันที่ ๘ มี.ค. ๒๔๙๙ กระทรวงมหาดไทย ได้มีประกาศคำสั่งให้ย้ายสถานีตำรวจนครบาลสามแยกไปรวมกับโรงพักป้อมปราบ ซึ่งมีที่ทำการตั้งอยู่ที่เลขที่ ๔๔๗ ถนนพลับพลาไชย แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร แล้วให้เปลี่ยนชื่อดังนี้ โรงพักป้อมปราบ เปลี่ยนเป็น สถานีตำรวจนครบาลพลับพลาไชย เขต ๑โรงพักสามแยก เปลี่ยนเป็น สถานีตำรวจนครบาลพลับพลาไชย เขต ๒โดยที่ทำการทั้ง ๒ สน. ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งเป็นที่ดินบริจาคขนาดพื้นที่ ๓ ไร่ ๑๕๖ ตารางวา ของรองหัวหมื่นพระอนุวัฒน์ราชนิยม (ฮง เตชะวณิช) เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๒ ซึ่งขณะนั้นมี พันตำรวจเอกหลวงอดุล เดชจรัส เป็นอธิบดีกรมตำรวจ และเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๕ ด้วยความแออัดทรุดโทรม ของที่ทำการสถานีตำรวจนครบาลพลับพลาไชยเขต ๑ และสถานีตำรวจนครบาลพลับพลาไชยเขต ๒ จึงได้ทำการทุบที่ทำการเดิม ๔ ชั้น สร้างรูปแบบใหม่เป็นอาคาร ๑๓ ชั้น สร้างแล้วเสร็จปี พ.ศ.๒๕๓๗ และได้มีการสร้าง “ศาลพ่อปู่เจ้ายี่กอฮง” ขึ้น ที่ดาดฟ้าชั้น ๔ สถานีตำรวจพลับพลาไชย ซึ่งในปัจจุบันศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่นับถือของตำรวจที่นี่และบุคคลทั่วไป โดยผู้คนที่มากราบไหว้นิยมขอในเรื่องของโชคลาภและขอหวย ขอเลขเด็ด ตามความเชื่อในประวัติของท่าน ทุกวันที่ ๕ มีนาคมของทุกปี จะมีผู้ร่วมทำบุญ ผู้ที่เคารพเลื่อมใสในตัวท่าน ทางตำรวจสน.พลับพลาไชยจะจัดทำบุญเพื่อระลึกถึงท่าน
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงทราบถึงคุณความดีและทรงพอพระทัยอย่างมาก จึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น “พระอนุวัตน์ราชนิยม” รองหัวหมื่น กรมมหาดเล็ก เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2461 และพระราชทานนามสกุล “เตชะวณิช” ตำแหน่งนายอากร เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2461 และท่านยังเป็นต้นตระกูล “เตชะวณิช” อีกด้วย
คุณงามความดีของยี่กอฮงหรือรองหัวหมื่นพระอนุวัตน์ราชนิยม
คุณงามความดี ยี่กอฮงหรือรองหัวหมื่นพระอนุวัตน์ราชนิยมได้สร้างไว้เมื่อครั้งยังมีชีวิต ได้แก่
- คณะเก็บศพไต้ฮงกง หรือมูลนิธิปอเต็กตึ้ง ในปัจจุบัน ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ.๒๔๓๙
- โรงเรียนช่องฟ้าซินเชิงวาณิชบำรุง จังหวัดเชียงใหม่ ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ.๒๔๔๔
- โรงเรียนอนุวัตน์ศึกษาคาร หรือโรงเรียนโยธินบูรณะในปัจจุบัน (รัชกาลที่๖ทรงเสด็จเปิดเมื่อวันที่ ๘ มกราคม ๒๔๖๑)
- โรงเรียนป้วยเอง หรือโรงเรียนเผยอิง (รัชกาลที่๖ทรงเสด็จเปิดเมื่อวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๔๖๓)
- ถนน “เตชะวณิช”
- สะพาน “อนุวัตน์วโรดม”
- สะพาน “นิยมนฤนาถ”
- สะพาน “ฮงอุทิศ”
- ดำรงตำแหน่งนายอากร เก็บภาษี และนำรายได้ส่งท้องพระคลังเป็นจำนวนมาก
- สร้างท่าน้ำฮั่วเซียม
- บริจาคเงินสร้างโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ (ได้เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ลำดับที่๙)
- ริเริ่มก่อตั้งโรงพยาบาลหัวเฉียว
- ริเริ่มก่อตั้งโรงพยาบาลเทียนฟ้า
- บริจาคเงินซื้อเรือรบหลวงพระร่วง
วิธีการกราบไหว้บูชา ขอหวย ขอเลขเด็ดจากศาลเจ้าพ่อยี่กอฮง
วิธีการกราบไหว้บูชา ขอหวย ขอเลขเด็ดจากเจ้าพ่อยี่กอฮง ขอจงประนมมือทำใจให้เป็นสมาธิ หลับตา บริกรรมภาวนาด้วยใจอันสงบนิ่ง กล่าวว่า “อิจฉิตัง ปัตถิตัง ตุมหัง ขิปปะเมว สะมิชฉะตุ สัพพะลาโภ ชะโย นิจจัง สัพพะลาโภ ภะวะตุ เม” 3 จบ
การบนบานศาลกล่าวเมื่อถูกหวยกับศาลเจ้าพ่อยี่กอฮง
ถ้าหากบนบานศาลกล่าวและ ถูกหวย นิยมแก้บนด้วยการนำ ข้าวขาหมู โอยั้ว น้ำชาดอกดาวเรือง หมากพลูบุหรี่ และซิการ์มาถวาย โดยทั้งนี้การกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นที่พึ่งทางใจ เพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจเท่านั้น
ความเชื่อเกี่ยวกับศาลยี่กอฮง
ความเชื่อเกี่ยวกับศาลยี่กอฮง ท่านเป็นผู้ที่มีความโชคดีทางการ เล่นหวย เสี่ยงโชค การพนัน ทุกชนิด เพราะสมัยตอนที่ท่านยังมีชีวิตท่านเป็นนักพนันตัวยงเลย ในชีวิตท่านยี่กอฮงมีส่วนในการบริจาคทรัพย์สินและได้สร้างสาธารณประโยชน์ไว้อย่างมากมาย เช่น ถนน, สะพานฮงอุทิศ สะพานนิยมนฤนาถ สะพานอนุวัฒนโรดม, โรงเรียนวัดสะพานสูง (โรงเรียนโยธินบูรณะ), โรงเรียนป้วยเองหรือโรงเรียนเผยอิง เมื่อ พ.ศ. 2463, ศาลเจ้าเก่าถนนทรงวาด, ศาลเจ้าไต้ฮงกง, ก่อสร้างท่าน้ำฮั่วเซี้ยม, ริเริ่มก่อตั้งโรงพยาบาลเทียนฟ้า เป็นต้น ท่านเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งขึ้น โดยชักชวนเหล่าพรรคพวกเพื่อนฝูงในสมัยนั้น มาร่วมกันสร้างมูลนิธิช่วยเหลือผู้ยากไร้ตกทุกข์ได้ยากและสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่เด็กที่เรียนดีแต่ยากไร้ อีกทั้งยังเป็นผู้มีส่วนในการรณรงค์หาเงินเข้าสภากาชาดไทยอย่างมากมาย เมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2479 รองหัวหมื่นพระอนุวัตน์ราชนิยมได้เสียชีวิตลงอย่างสงบในบ้านของท่าน สิริอายุรวม 87 ปี ศพของท่านได้นำกลับไปฝัง ที่สุสานในเมืองปังโคย ประเทศจีน ขณะเดียวกันหลวงอดุลเดชจรัส ผู้เป็นอธิบดีกรมตำรวจในสมัยนั้นมีความต้องการใช้บ้านของท่านมาเป็นโรงพักกลางแทนโรงพักสามแยกที่ถูกไฟไหม้เสียหายไป จึงทำการรื้อตัวอาคารเดิมทั้งหมดทิ้งลง แล้วสร้างอาคารใหม่ขึ้นมาแทน และสร้างศาลพ่อปู่เจ้ายี่กอฮงไว้บนโรงพักแห่งนี้ด้วย
เชื่อกันว่าเจ้าพ่อยี่กอฮงเป็นนักพนันตัวยง และเป็นผู้ที่มีโชคมาก โดยเฉพาะด้านการเสี่ยงโชคและการพนันแทบทุกชนิด จนได้รับการขนานนามว่า “เทพเจ้าหวยองค์แรกแห่งสยามประเทศ” ดังนั้นที่แห่งจึงเป็นสถานที่ฮอตฮิตสำหรับนักเสี่ยงโชค เสี่ยงดวง เซียน หวย หรือแม้แต่ผู้ที่ต้องการมาขอพร ขอโชคลาภอันดับต้น ๆ เลย เนื่องจากที่นี่มีชื่อเสียงและเป็นที่ร่ำลือกันมากว่าให้หวยแม่น และใครขออะไรก็สมหวังกันมานักต่อนักแล้ว ใครที่มาขอโชคลาภจากเจ้าพ่อยี่กอฮงและเป็นคนดี มีความกตัญญูรู้คุณก็มักจะได้รับโชคดีจากการเสี่ยงโชคอยู่เสมอ รวมถึงพรข้ออื่น ๆ ที่ขอด้วย
